DEVELOPMENT OF A HISTORY INSTRUCTIONAL UNIT BASED ON CHALLENGE-BASED LEARNING TO PROMOTE HISTORICAL THINKING SKILLS

Abstract

This research aimed to: (1) develop a history instructional unit based on challenge-based learning to promote historical thinking skills; and (2) compare students’ historical thinking skills before and after participating in challenge-based learning activities. The study employed a developmental research design. The sample consisted of 30 Grade 9 students in the 2024 academic year, selected through purposive sampling. The research was conducted in two phases: Phase 1 involved the development of the history instructional unit using the challenge-based learning approach to enhance historical thinking skills; Phase 2 focused on comparing students’ historical thinking skills before and after instruction. The research instruments included a challenge-based learning lesson plan, two parallel sets of historical thinking skills tests—pre-test (Set 1) and post-test (Set 2)—and a historical thinking skills evaluation form. The data were analyzed using content analysis, along with statistical methods including means, standard deviation, and a dependent t-test. The findings revealed that: 1) the development of the instructional unit consisted of learning principles, instructional design guidelines, and five key stages: (1) Big Idea, (2) Essential Questions, (3) The Challenge, (4) Solution, and (5) Assessment, along with the measurement and evaluation of historical thinking skills; and 2) students who participated in the challenge-based learning unit showed a statistically significant improvement in their historical thinking skills at the .05 level, indicating the effectiveness of the approach.

การวิจัยนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาหน่วยการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ตามแนวคิดการเรียนรู้บนความท้าทายเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดทางประวัติศาสตร์และ 2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการคิดทางประวัติศาสตร์ก่อนและหลังการจัดการเรียนการรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้บนความท้าทาย เป็นการวิจัยเชิงพัฒนา โดยมีกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 30 คน ในปีการศึกษา 2567 ซึ่งผู้วิจัยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง โดยมีขั้นตอนการวิจัย 2 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 การพัฒนาหน่วยการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ตามแนวคิดการเรียนรู้บนความท้าทายเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดทางประวัติศาสตร์ และขั้นตอนที่ 2 การเปรียบเทียบทักษะการคิดทางประวัติศาสตร์ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้บนความท้าทาย มีเครื่องมือที่ใช้วัดและประเมินผลประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้บนความท้าทาย แบบทดสอบคู่ขนานวัดทักษะการคิดทางประวัติศาสตร์ ชุดที่ 1 (ก่อนเรียน) และชุดที่ 2 (หลังเรียน) และแบบประเมินแบบวัดทักษะการคิดทางประวัติศาสตร์ จากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์โดยการวิเคราะห์เนื้อหา และเปรียบเทียบทักษะการคิดทางประวัติศาสตร์ของนักเรียนก่อนและหลังการทดลองโดยใช้ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test dependent ผลการวิจัยพบว่า 1) การพัฒนาหน่วยการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ตามแนวคิดการเรียนรู้บนความท้าทายเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดทางประวัติศาสตร์ ประกอบด้วยหลักการของการเรียนรู้ แนวทางในการพัฒนาหน่วยการเรียนรู้ และขั้นตอนของการพัฒนาหน่วยการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน ได้แก่ (1) ความคิดจุดประกาย (2) คำถามที่จำเป็น (3) ความท้าทาย (4) การแก้ปัญหา (5) การประเมินผล ตลอดจนการวัดและประเมินผลทักษะการคิดทางประวัติศาสตร์ 2) นักเรียนที่เรียนด้วยแนวคิดการเรียนรู้บนความท้าทายมีทักษะการคิดทางประวัติศาสตร์หลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงทักษะการคิดทางประวัติศาสตร์ของนักเรียนที่เป็นไปในทางที่ดีขึ้น