FACTORS INFLUENCING HAPPINESS AT WORK AMONGPRASARNMIT DEMONSTRATION SCHOOL (ELEMENTARY)’SSRINAKHARINWIROT UNIVERSITY STAFFS

Abstract

The objective of this research is to study the Factors Influencing Happiness at Work among Prasarnmit Demonstration School (Elementary)’s Srinakharinwirot University Staffs. The sample group consisted of 200 individuals, including 117 lecturers, 43 support staff, and 40 service staff. Data analysis was conducted using descriptive statistics, including percentage, mean, and standard deviation, inferential statistics were used to test hypotheses, including t-test, one-way ANOVA, and multiple regression analysis using the Enter method. The research show that factors contributing to job happiness include work motivation, work environment, work facilities, and access to information. Overall, these factors were at a very high level, with an average of 4.36. Job happiness was also at a very high level, with an average of 4.25. Hypothesis testing revealed that: 1. Personnel with different gender, age, average monthly income, work duration, and job roles had significantly different levels of job happiness at a statistical significance level of 0.05. 2. The factors with the highest influence on job happiness were work environment and access to information, both having a positive influence. These factors could predict 55.1% of job happiness. These research results can be used as guidelines for developing policies and strategies to improve the work environment and information dissemination, aiming to sustainably enhance job happiness for personnel in the future.

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความสุขในการทำงานของบุคลากรโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายประถม) โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา จำนวน 200 คน ประกอบด้วย อาจารย์ จำนวน 117 คน พนักงานสายสนับสนุน จำนวน 43 คน และพนักงานบริการ จำนวน 40 คน และวิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้สถิติเชิงพรรณนา ประกอบด้วย ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงอนุมานเพื่อทดสอบสมมติฐาน ประกอบด้วย สถิติทดสอบกลุ่มตัวอย่างสองกลุ่มที่เป็นอิสระต่อกัน (Independent t-test) สถิติวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว (One-Way ANOVA) และการวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) ด้วยวิธีการแบบ Enter ผลจากการวิจัยพบว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดความสุขในการทำงาน ได้แก่ แรงจูงใจในการทำงาน บรรยากาศในการทำงาน เครื่องอำนวยความสะดวกในการทำงาน และการรับทราบข้อมูลข่าวสาร โดยรวมอยู่ในระดับอยู่ในระดับสูงมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.36 และความสุขในการทำงาน โดยรวมอยู่ในระดับสูงมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.25 ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า 1. บุคลากรที่มีเพศ อายุ รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ระยะเวลาการปฏิบัติงาน และสายงานที่ปฏิบัติงานที่แตกต่างกัน มีความสุขในการทำงานแตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 2. พบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลสูงสุดต่อความสุขในการทำงาน ได้แก่ ปัจจัยด้านบรรยากาศในการทำงาน และการรับทราบข้อมูลข่าวสาร มีอิทธิพลในทิศทางเดียวกัน สามารถพยากรณ์ความสุขในการทำงานอย่าง ได้ร้อยละ 55.1 ทั้งนี้ผลการวิจัยสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนานโยบายและกลยุทธ์ในการวางแผนแนวทางในการพัฒนาบรรยากาศในการทำงาน และการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเพื่อเสริมสร้างความสุขในการทำงานให้บุคลากรได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต