Please use this identifier to cite or link to this item: http://ir-ithesis.swu.ac.th/dspace/handle/123456789/2100
Title: WORKING MOTIVATION AND JOB SATISFACTION RELATING TO WORKING FROM HOME EFFICIENCY OF PRIVATE ORGANIZATIONS EMPLOYEES IN BANGKOK
แรงจูงใจและความพึงพอใจในการทำงานที่มีความสัมพันธ์ต่อประสิทธิภาพต่อการทำงานที่บ้าน ของพนักงานเอกชนในเขตกรุงเทพมหานคร
Authors: MAYTITIP SILPRASIT
เมธิทิพย์ ศีลประสิทธิ
Phutip Meethavornkul
ภูธิป มีถาวรกุล
Srinakharinwirot University
Phutip Meethavornkul
ภูธิป มีถาวรกุล
phutip@swu.ac.th
phutip@swu.ac.th
Keywords: แรงจูงใจในการทำงาน
ความพึงพอใจในการทำงาน
ประสิทธิภาพในการทำงานที่บ้าน
Working motivation
Job satisfaction
Working from home efficiency
Issue Date:  16
Publisher: Srinakharinwirot University
Abstract: The purposes of this research are to study working motivation and job satisfaction related to the working from home efficiency of private organizations employees in Bangkok. The sample size in this study was 404 employees of private organizations in Bangkok. The statistical analysis in this study described the percentage, mean, standard deviation, independent t-test, one-way analysis of variance and Pearson product moment correlation coefficient. The results of this research were as follows: (1) the majority of employees were female, aged 26-35 years, single, held a Bachelor’s degree or equivalent, with a staff position and had under five years or equivalent of work experience. Most employees had attitudes toward overall working motivation, job satisfaction and working from home efficiency at the high level; (2) employees with different ages, status and job positions had different overall working from home efficiency with a significance of 0.05 (3) Working motivation has positively correlated with working from home efficiency with a statistical significance of 0.01 at a moderate level; and (4) job satisfaction has positively correlated with working from home efficiency with a statistical significance of 0.01 at a moderate level.
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแรงจูงใจและความพึงพอใจในการทำงานที่มีความสัมพันธ์ต่อประสิทธิภาพต่อการทำงานที่บ้านของพนักงานเอกชนในเขตกรุงเทพมหานคร โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล จากกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ พนักงานเอกชนในเขตกรุงเทพมหานครจำนวน 404 คน โดยมีการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน คือ การวิเคราะห์ความแตกต่างโดยการหาค่าที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์ความสัมพันธ์โดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า 1. พนักงานที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ 26-35 ปี สถานภาพโสด ระดับการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ตำแหน่งงานพนักงานทั่วไป ที่มีระยะเวลาปฏิบัติงานต่ำกว่า 5 ปีหรือเทียบเท่า มีความคิดเห็นเกี่ยวกับแรงจูงใจในการทำงาน ความพึงพอใจในการทำงาน และประสิทธิภาพในการทำงานที่บ้านอยู่ในระดับมาก 2. พนักงานที่มีอายุ สถานภาพ และตำแหน่งงานแตกต่างกัน มีประสิทธิภาพในการทำงานที่บ้านแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 3. แรงจูงใจในการทำงานโดยรวม มีความสัมพันธ์ต่อประสิทธิภาพในการทำงานที่บ้าน ของพนักงานเอกชนในเขตกรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 โดยมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกัน ระดับความสัมพันธ์ปานกลาง 4. ความพึงพอใจในการทำงานโดยรวม มีความสัมพันธ์ต่อประสิทธิภาพในการทำงานที่บ้าน ของพนักงานเอกชนในเขตกรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 โดยมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกัน ระดับความสัมพันธ์ปานกลาง
URI: http://ir-ithesis.swu.ac.th/dspace/handle/123456789/2100
Appears in Collections:Faculty of Business administration for society

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
gs631130473.pdf2.45 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.