ADMINISTRATORS' DIGITAL LEADERSHIP AFFECTING TEACHER' PERFORMANCE MOTIVATION IN INSTITUTIONS UNDER BANGKOK PRIMARY EDUCATIONAL SERVICE AREA OFFICE

Abstract

This research aimed to1) examine the levels of digital leadership among school administrators and the levels of work motivation among teachers in primary schools under the Bangkok Primary Educational Service Area Office 2) explore the relationship between digital leadership of school administrators and the work motivation of teachers; and 3) analyze the influence of digital leadership on teachers’ work motivation. The sample group consisted of 285 teachers working in primary schools under the Bangkok Primary Educational Service Area Office in the academic year 2025, selected through stratified random sampling followed by simple random sampling. The research instrument used was a five-point Likert scale questionnaire with an overall reliability coefficient of 0.97 The reliability coefficients for the digital leadership and teacher motivation sections were 0.98 each. Data were analyzed using mean, percentage, standard deviation, Pearson’s correlation coefficient, and multiple regression analysis (Enter method).

The findings were as follows:1)The overall level of digital leadership among school administrators was high. When examined by dimension, it was found to range from very high to high levels, with the highest mean scores in the following order: digital leadership and vision, digital ethics, support for digital teaching and learning, support for digital assessment and evaluation, and support for digital administrative management. Teachers’ work motivation was also at a high level overall, with the following aspects ranked from highest to lowest: career advancement, responsibility, nature of work, recognition, and achievement. 2) There was a strong positive correlation between digital leadership of administrators and teachers’ work motivation (r = 0.596**, p < .01). In particular, the highest correlations were found in the dimensions of digital support for assessment and evaluation (r = .797**), support for digital administration (r = .768**), digital ethics (r = .749**), and support for digital teaching and learning (r = .717**), while digital leadership and vision showed a moderate negative correlation (r = -0.052), statistically significant.3)Digital leadership dimensions—including digital leadership and vision, support for digital teaching, digital ethics, digital administrative support, and digital assessment support—could collectively predict 68.60% of the variance in teachers’ work motivation (R = 0.828, R² = 0.686, F = 121.987, p < .01). Among these, the dimension of digital assessment and evaluation support (X5) had the highest significant positive impact, followed by digital administrative support (X4) and digital teaching and learning support (X2), which also showed significant positive impacts.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับภาวะผู้นำดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษาและระดับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูผู้สอนศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษาดิจิทัล และแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูผู้สอนในโรงเรียนประถมศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร 3) เพื่อวิเคราะห์ภาวะผู้นำดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูในโรงเรียนประถมศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างคือครูที่ปฏิบัติงานในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร ปีการศึกษา 2568 จำนวน 285 คน เลือกโดยวิธี เลือกโดยวิธีจากการสุ่มแบบแบ่งชั้น จากนั้นทำการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถามแบบประมาณค่า 5 ระดับ ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .97 ค่าความ เชื่อมั่นของภาวะผู้นำดิจิทัลเท่ากับ .98 และค่าความเชื่อมั่นของแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูท่ากับ .98 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และการถดถอยพหุคูณแบบวิธีการนำตัวแปรเข้าทั้งหมด ผลวิจัยพบว่า1)ระดับภาวะผู้นำดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร โดยรวมอยู่ในระดับมาก และพิจารณา รายด้านพบว่าอยู่ในระดับ มากที่สุด และระดับมาก โดยเรียงค่าเฉลี่ยลำดับจากมากไปน้อยดังนี้ ด้านการมีภาวะผู้นำและวิสัยทัศน์เทคโนโลยีดิจิทัล ด้านจริยธรรมในการใช้ เทคโนโลยีดิจิทัล ด้านการสนับสนุนการเรียนการสอนโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ด้านการสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในวัดและประเมินผล และด้านการสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในด้านการบริหารงาน และระดับแรงจูงในในการปฏิบัติงานของครู สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร อยู่ในระดับ มาก และพิจารณา เป็นรายด้านพบว่าอยู่ในระดับ มากที่สุด และระดับมาก โดยแต่ละด้านมีค่าเฉลี่ยเรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ ด้านความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่ ด้านความรับผิดชอบ ด้านลักษณะของงานที่ปฏิบัติ ด้านการยอมรับนับถือ และด้านความสำเร็จในการปฏิบัติงาน2) ระดับภาวะผู้นำดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา กับ แรงจูงในในการปฏิบัติงานของครู สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร มีความสัมพันธ์ โดยรวมทางบวกอยู่ในระดับสูง(r=ปานกลาง (r = 0.596**) มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการวัดประเมินผลมีค่า สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์( r =.797**) อยู่ในระดับสูง รองลงมาคือ ด้านการสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในด้านการบริหารงาน (r=.768**) ด้านจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (r=.749**) ด้านการสนับสนุนการเรียนการสอนโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (r=.717**) และด้านการมีภาวะผู้นำและวิสัยทัศน์เทคโนโลยีดิจิทัล มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (r=-.052) อยู่ในระดับปานกลาง และมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 3)ภภาวะผู้นำดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา ได้แก่ ด้านการมีภาวะผู้นำและวิสัยทัศน์เทคโนโลยีดิจิทัล ด้านการสนับสนุนการเรียนการสอนโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ด้านจริยธรรมในการใช้ ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ด้านการสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในด้านการบริหารงาน และด้านการสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในวัดและประเมินผล สามารถร่วมกัน พยากรณ์แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร ได้ร้อยละ 68.60 โดยมี ค่า R = 0.828, R² = 0.686 , F = 121.987 และ มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01เมื่อพิจารณารายด้าน ด้านการสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในวัดและประเมินผล(X5) มีผลกระทบเชิงบวกสูงสุดและมีนัยสำคัญมาก รองลงมาด้านการสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในด้านการบริหารงาน(X4) มีผลกระทบเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญ และด้านการสนับสนุนการเรียนการสอนโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (X2)มีผลกระทบเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญ