A CURRICULUM DEVELOPMENT TO ENHANCE COMMUNICATION SKILLS FORHIGH SCHOOL STUDENTS WITH SPECIAL NEEDS IN AN INTEGRATION SCHOOL

Abstract

This research aimed to develop a curriculum to enhance speaking skills for communication for students with special needs at the upper secondary level in an integration school. The research was conducted in three phases as follows: Phase 1: which examined the problems, needs, and guidelines for enhancing speaking skills for communication for students, found the following: 1) Problems: The school lacked a curriculum that focused on developing speaking skills for communication for students with special needs. 2) Needs: There was a need for curriculum that focused on vocabulary development and the use of communication skills in real situations. The measurement and evaluation of the curriculum should include assessment before, during, and after activities to evaluate students' communication development. 3) Guidelines: The curriculum should cover skills such as expressing feelings, refusing requests, expressing needs, asking for help, inquiring about prices, and asking for directions. Phase 2: the curriculum development stage, found that: the curriculum comprised four components: curriculum objectives, curriculum content, teaching and learning activities, and assessment and evaluation. Phase 3: involved trial use and evaluation of the curriculum with a group of Mathayom 6 students with special needs, selected through purposive sampling. The results showed that: 1) The student’s speaking skills for communication improved significantly after using the curriculum, reaching an excellent level, accounting for 96.09 percent, with an effectiveness index (E.I.) was 88.99 percent. 2) The overall effectiveness of the curriculum was at the highest level, with an average score of 4.97.

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาหลักสูตรเสริมสร้างทักษะการพูดเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในโรงเรียนเรียนร่วม ดำเนินการวิจัย 3 ระยะดังนี้ ระยะที่ 1 ศึกษาสภาพปัญหา ความต้องการ และแนวทางการเสริมสร้างทักษะการพูดเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในโรงเรียนเรียนร่วม พบว่า 1) สภาพปัญหา พบว่า โรงเรียนไม่มีหลักสูตรที่เน้นพัฒนาทักษะการพูดเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ 2) ความต้องการ พบว่า ต้องการให้มีหลักสูตรเสริมสร้างทักษะการพูดเพื่อการสื่อสาร ที่เน้นการพัฒนาทักษะการใช้คำศัพท์และการสื่อสารที่สามารถนำไปใช้ในสถานการณ์จริง และการวัดและประเมินผลของหลักสูตร ควรมีการประเมินก่อนจัดกิจกรรม ระหว่างจัดกิจกรรม และหลังจัดกิจกรรม เพื่อให้เห็นถึงพัฒนาการการสื่อสารของนักเรียน 3) แนวทางในการเสริมสร้างทักษะการพูดเพื่อการสื่อสาร พบว่า ควรสอนทักษะการพูดเพื่อบอกความรู้สึก ทักษะการพูดเพื่อบอกปฏิเสธ ทักษะการพูดเพื่อบอกความต้องการ ทักษะการพูดเพื่อขอความช่วยเหลือ ทักษะการพูดเพื่อสอบถามราคาสินค้า ทักษะการพูดเพื่อสอบถามเส้นทาง ระยะที่ 2 สร้างหลักสูตร พบว่า 1) หลักสูตรเสริมสร้างทักษะการพูดเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในโรงเรียนเรียนร่วม มีองค์ประกอบ 4 องค์ประกอบ ได้แก่ จุดมุ่งหมายของหลักสูตร เนื้อหาของหลักสูตร การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และการวัดประเมินผล ระยะที่ 3 ทดลองใช้และประเมินประสิทธิผลของหลักสูตรเสริมสร้างทักษะการพูดเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในโรงเรียนเรียนร่วม กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ กำลังศึกษาอยู่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 1 ห้องเรียน โดยการคัดเลือกแบบเจาะจง (Purposive Selection) พบว่า 1) ทักษะการพูดเพื่อการสื่อสารของนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ สูงกว่าก่อนใช้หลักสูตรเสริมสร้างทักษะการพูดเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในโรงเรียนเรียนร่วม อยู่ในระดับดีเยี่ยม คิดเป็นร้อยละ 96.09 และค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.) คิดเป็นร้อยละ 88.99 2) ประเมินประสิทธิผลของหลักสูตรเสริมสร้างทักษะการพูดเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในโรงเรียนเรียนร่วม พบว่า หลักสูตรเสริมสร้างทักษะการพูดเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษพิศษระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในโรงเรียนเรียนร่วม มีประสิทธิผลโดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.97