CONTINUITY AND CHANGE IN U.S. RACIAL POLICY: A CASE STUDY OF POLICIES UNDER THE TRUMP AND BIDEN ADMINISTRATIONS THROUGH CRITICAL RACE THEORY

Abstract

This study aims to examine systemic racism through an analysis of education, employment, and healthcare policies under the administrations of Donald Trump and Joe Biden, with a particular focus on their impact on African Americans—a population that has long faced structural inequality in the United States. The research employs the conceptual framework of systemic racism to analyze the policies and their consequences for Black communities in each of these areas.

This is a qualitative study that relies on content analysis of policy documents, government reports, speeches, and commentaries from civil society organizations and the media. The findings reveal that Trump-era policies were characterized by right-wing populism, emphasizing free-market promotion and reducing the role of the federal government, without concrete efforts to address racial disparities. In contrast, Biden’s policies demonstrate a clear intention to reduce inequality, with a focus on expanding access to public resources, promoting educational opportunities, and developing a more equitable healthcare system. The policy analysis draws on Critical Race Theory and the theory of incremental change to explore both continuity and change in policy.

The results indicate that disparities in all three sectors are rooted in deeply embedded systemic racism within laws, social structures, and institutions. The policies implemented by each administration play a significant role in either narrowing or widening these gaps. These findings underscore the importance of designing justice-centered policies that genuinely embrace racial diversity and inclusivity.

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเหยียดเชื้อชาติเชิงระบบ (Systemic Racism) ผ่านการศึกษานโยบายด้านการศึกษา การจ้างงาน และสุขภาพ ของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ และ โจ ไบเดน โดยเน้นผลกระทบต่อชาวแอฟริกันอเมริกันซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่เผชิญกับความเหลื่อมล้ำเชิงโครงสร้างในสหรัฐอเมริกาอย่างยาวนาน งานวิจัยนี้ใช้กรอบแนวคิดการเหยียดเชื้อชาติเชิงระบบในการวิเคราะห์นโยบายและผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อกลุ่มคนผิวดำในแต่ละด้าน โดยการศึกษานี้อาศัยวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการวิเคราะห์เนื้อหาจากเอกสารทางนโยบาย รายงานทางราชการ สุนทรพจน์ และบทวิเคราะห์จากองค์กรภาคประชาสังคมและสื่อมวลชน พบว่านโยบายในสมัยทรัมป์มีลักษณะประชานิยมขวาจัด มุ่งเน้นการส่งเสริมตลาดเสรีและลดบทบาทของรัฐบาลกลาง โดยมิได้ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขความเหลื่อมล้ำเชิงเชื้อชาติอย่างเป็นรูปธรรม ในขณะที่นโยบายของไบเดนมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการลดความเหลื่อมล้ำ โดยมุ่งเน้นการขยายสิทธิการเข้าถึงทรัพยากรสาธารณะ การส่งเสริมโอกาสทางการศึกษา และการพัฒนาระบบสุขภาพที่เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม โดยมีการวิเคราะห์นโยบายผ่านทฤษฎีวิพากษ์เชื้อชาติ และทฤษฎีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมบางส่วน หรือ ทฤษฎีส่วนเพิ่มเพื่อศึกษาความต่อเนื่องของนโยบาย ซึ่งผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าความเหลื่อมล้ำในทั้งสามด้านมีรากฐานจากการเหยียดเชื้อชาติเชิงระบบที่ฝังลึกในกฎหมาย โครงสร้างสังคม และสถาบันต่าง ๆ ซึ่งนโยบายของผู้นำแต่ละคนมีบทบาทอย่างมากในการลดหรือขยายช่องว่างนี้ ข้อค้นพบนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการออกแบบนโยบายที่ยึดหลักความเป็นธรรม และสนับสนุนแนวทางที่ครอบคลุมความหลากหลายทางเชื้อชาติอย่างแท้จริง