THE IMPACT OF MYANMAR MIGRANT LABOR ON THAILAND’S ECONOMIC SECURITY, A STUDY DURING 2019–2024

Abstract

This study aims to analyze the impact of cross-border labor migration from Myanmar on Thailand’s economic security between 2019 and 2024. The findings reveal a continuous increase in the number of Myanmar migrant workers in Thailand, reaching approximately 2.5 million in 2024—accounting for 86% of the total migrant workforce in the country. These workers play a crucial role in labor-intensive sectors such as agriculture, fisheries, construction, and services, helping to reduce production costs, support GDP growth, and maintain competitiveness, especially among SMEs. However, a significant number of undocumented workers remain outside the state protection system, imposing substantial social costs on the country, including public health, education, border security, and structural risks in the labor market. The analysis also highlights structural vulnerabilities resulting from informal labor, particularly in fiscal stability, healthcare systems, and essential welfare provisions. The Thai state has been unable to effectively collect taxes and social contributions from this group, leading to an estimated annual revenue loss of 8–10 billion baht. Moreover, the failure to regulate migrant labor contributes to reputational risks and international pressure on Thailand regarding human trafficking and labor rights. In conclusion, Myanmar migrant labor is not merely an economic factor, but a structural issue interlinked with national security in multiple dimensions.

การศึกษาผลกระทบของแรงงานข้ามชาติจากประเทศเมียนมาต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในช่วงปี 2019-2024 ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า แรงงานเมียนมาในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2024 มีจำนวนประมาณ 2.5 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 86 ของแรงงานต่างด้าวทั้งหมดในประเทศ แรงงานกลุ่มนี้มีบทบาทสำคัญในภาคเศรษฐกิจที่ต้องการแรงงานเข้มข้น เช่น ภาคเกษตรกรรม ประมง ก่อสร้าง และบริการ ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิต สนับสนุนการเติบโตของ GDP และรักษาความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจโดยเฉพาะกลุ่ม SMEs อย่างไรก็ตาม แรงงานผิดกฎหมายจำนวนมากที่ไม่อยู่ในระบบการคุ้มครองของรัฐ ส่งผลให้ประเทศไทยต้องแบกรับต้นทุนทางสังคมจำนวนมาก เช่น ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุข การศึกษา ความมั่นคงชายแดน และความเสี่ยงเชิงโครงสร้างในตลาดแรงงาน ผลการวิเคราะห์ยังชี้ให้เห็นถึงความเปราะบางเชิงโครงสร้างที่เกิดขึ้นจากแรงงานนอกระบบ โดยเฉพาะในด้านความมั่นคงทางการคลัง ระบบสาธารณสุข และสวัสดิการพื้นฐานของรัฐ ทั้งยังพบว่ารัฐไทยยังไม่สามารถจัดเก็บภาษีและเงินสมทบจากแรงงานกลุ่มนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สูญเสียรายได้ที่อาจมีมูลค่าสูงถึง 8,000–10,000 ล้านบาทต่อปี ขณะเดียวกัน ความล้มเหลวในการจัดระเบียบแรงงานยังส่งผลให้ประเทศไทยเผชิญความเสี่ยงด้านภาพลักษณ์และแรงกดดันจากเวทีระหว่างประเทศในประเด็นการค้ามนุษย์และสิทธิแรงงาน สรุปแรงงานเมียนมาในประเทศไทยไม่ใช่เพียงปัจจัยเชิงเศรษฐกิจเท่านั้น แต่เป็นประเด็นเชิงโครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงในหลายมิติ งานวิจัยฉบับนี้จึงเสนอให้ภาครัฐตระหนักถึงความซับซ้อนของแรงงานข้ามชาติ และจัดทำนโยบายที่อิงจากข้อมูลจริง บูรณาการระหว่างหน่วยงาน และตั้งอยู่บนหลักสิทธิมนุษยชนและความเป็นธรรมเชิงเศรษฐกิจ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน