THE DEVELOPMENT OF SCIENTIFIC CREATIVITY THROUGH STEAM EDUCATION IN FORCE AND MOTION TOPIC FOR TENTH GRADE STUDENTS

Abstract

This research aims to study the effects of science learning on the topic of force and motion using STEAM education in term of scientific creativity and learning achievement among tenth-grade students. The samples were 30 tenth-grade students who studied in the second semester of the 2024 academic year in a school in Nakhon Pathom, selected through purposive sampling. This research is a pre-experimental research using a one group pre-test post-test design. The research instruments consisted of the following: 1) STEAM-based lesson plans; 2) a scientific creativity test; and 3) a learning achievement test. The statistics employed for the analysis of data included mean, standard deviation and percentage mean. The results of this study were as follows: 1) the scientific creativity posttest mean score of the students (M = 40.63, S.D. = 4.25) was higher than the pretest one (M = 37.53, S.D. = 4.18); and 2) the learning achievement posttest mean score (M = 19.63, S.D. = 8.39) was higher than the pretest one (M = 13.23, S.D. = 4.61).

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะตีมศึกษา ในรายวิชาฟิสิกส์ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ กลุ่มที่ศึกษาที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้คือนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 30 คน โรงเรียนแห่งหนึ่งในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา จังหวัดนครปฐม ซึ่งได้มาจากวิธีเลือกตัวอย่างแบบเจาะจง งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองเบื้องต้นตามแบบแผนการวิจัยแบบหนึ่งกลุ่มทดลองก่อนและหลังเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะตีม 2) แบบวัดความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ และ 3) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าเฉลี่ยร้อยละ ผลการวิจัยพบว่า 1) นักเรียนกลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ยความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์หลังเรียน (M = 40.63, S.D. = 4.25) สูงกว่าก่อนเรียน (M = 37.53, S.D. = 4.18) และ 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนหลังเรียน (M = 19.63, S.D. = 3.89) สูงกว่าก่อนเรียน (M = 13.23, S.D. = 4.61)