Please use this identifier to cite or link to this item:
http://ir-ithesis.swu.ac.th/dspace/handle/123456789/2457
Title: | MARKETING MIX AND MOTIVATION AFFECTING BEHAVIOR ON SERVICE USAGE OF BEAUTY INSTITUTE USERS IN THE BANGKOK METROPOLIS AREA ส่วนประสมทางการตลาดและแรงจูงใจที่มีผลต่อพฤติกรรมการใช้บริการสถาบันเสริมความงามของผู้ใช้บริการในเขตกรุงเทพมหานคร |
Authors: | JANYAPORN BUBPHAN จรรยพร บุบผัน Rasita Sangboonnak รสิตา สังข์บุญนาค Srinakharinwirot University Rasita Sangboonnak รสิตา สังข์บุญนาค supaporns@swu.ac.th supaporns@swu.ac.th |
Keywords: | ส่วนประสมทางการตลาด แรงจูงใจ พฤติกรรมการใช้บริการ Marketing mix Motivation Service usage behavior |
Issue Date: | 19 |
Publisher: | Srinakharinwirot University |
Abstract: | This study aims to study the marketing mix and motivations affecting behavior on service usage of beauty institute users in the Bangkok metropolitan area. The sample consisted of 400 users of beauty institutes in the Bangkok metropolitan area and used an online questionnaire as a tool for data collection. The statistics used to analyze the data were frequency, percentage, mean, and standard deviation, the statistical analysis of differences by finding a t-test of One-Way analysis, Variance pairwise comparison, Multiple regression analysis, and the analysis of the correlation between variables performed using Pearson's correlation coefficient statistics. The results revealed the following: (1) most of the respondents were female, single, divorced or separated, aged between 28-37 years old, held a Bachelor's degree, worked as employees at private companies and an average income of 15,001 baht to 30,000 baht; (2) the opinions of service users in terms of marketing mix, products, and personnel were at a very good level in terms of price, distribution channels. The marketing promotion service process and physical characteristics were at a good level; (3) the motivation to use social and physical services was at a high level; (4) most respondents had a frequency of using the service for three months with an average of two times for three months. The average budget for the service was 11,774 baht/time, most of them used the services of beauty institutes on weekends from 4:00pm-6:59pm. The most influential people using the service was personal needs and used the services of beauty institutes the most, including various types of procedures: Botox, fillers, vitamin injections, lasers, etc. The hypothesis testing results revealed the following: (1) service users of a different status, age, income, had different usage behaviors at beauty institutes among service users in Bangkok in terms of the average frequency of using the service for three months and were statistically significant at a level of 0.05; (2) the price marketing mix, marketing promotion and personnel service process affecting the behavior of service users at beauty institutes of in Bangkok in terms of the average frequency of using the service for three months, statistically significant at a level of 0.05, and the influence in forecasting was 2.6%; (3) the social and physical motivations were related to the beauty institute service behavior of the service users in Bangkok in terms of the average frequency of use of the service for 3 months with a statistically significant level of 0.01. From the information mentioned above, the information can be used to analyze the implementation of marketing strategies in accordance with using beauty institute services, including the development of the marketing mix in the service, so that service users had the behavior of using the services of beauty institutes and were most satisfied with the service. งานวิจัยนี้มุ่งศึกษาเรื่องส่วนประสมทางการตลาดและแรงจูงใจที่มีผลต่อพฤติกรรมการใช้บริการสถาบันเสริมความงามของผู้ใช้บริการในเขตกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้คือผู้ใช้บริการสถาบันเสริมความงามในเขตกรุงเทพมหานครจำนวน 400 คน โดยใช้แบบสอบถามออนไลน์เป็นเครื่องมือในการเก็บ รวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติวิเคราะห์ความแตกต่างโดยการหาค่าที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว การเปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่ การวิเคราะห์เชิงถดถอยแบบพหุคูณ และการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรใช้สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า(1)ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง สถานภาพโสด /หย่าร้าง /แยกกันอยู่ อายุระหว่าง 28-37 ปี การศึกษาระดับปริญญาตรี มีอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน รายได้เฉลี่ย 15,001บาท - 30,000 บาท (2)ผู้ใช้บริการมีความคิดเห็นด้านส่วนประสมทางการตลาดด้านผลิตภัณฑ์ ด้านบุคคลากร อยู่ในระดับดีมาก ด้านราคา ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ด้านการส่งเสริมการตลาด ด้านกระบวนการให้บริการและด้านลักษณะทางกายภาพ อยู่ในระดับดี(3)แรงจูงใจในการใช้บริการด้านสังคมและด้านร่างกายอยู่ในระดับมาก(4)ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีความถี่ในการใช้บริการ/3เดือนมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่2ครั้ง/3เดือน มีงบประมาณเฉลี่ยที่ใช้บริการ 11,774 บาท/ครั้งส่วนใหญ่ใช้บริการสถาบันเสริมความงามวันเสาร์-อาทิตย์ ช่วงเวลา 16.00น. - 18.59น. บุคคลที่มีอิทธิพลในการใช้บริการมากที่สุดคือ ความต้องการส่วนตัว และใช้บริการสถาบันเสริมความงามประเภทหัตถการต่างๆ เช่น Botox , ฟิลเลอร์ , ฉีดวิตามิน , เลเซอร์ เป็นต้น มากที่สุด ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า(1)ผู้ใช้บริการที่มีสถานภาพ อายุ รายได้ แตกต่างกันมีพฤติกรรมการใช้บริการสถาบันเสริมความงามของผู้ใช้บริการในเขตกรุงเทพมหานครแตกต่างกันในด้านความถี่โดยเฉลี่ยในการใช้บริการ/3เดือน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05(2)ส่วนประสมทางการตลาดด้านราคา ด้านการส่งเสริมการตลาด ด้านบุคลากร ด้านกระบวนการให้บริการ ส่งผลต่อพฤติกรรมการใช้บริการสถาบันเสริมความงามของผู้ใช้บริการในเขตกรุงเทพมหานครในด้านความถี่โดยเฉลี่ยในการใช้บริการ/3เดือน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 อิทธิพลในการพยากรณ์ได้ร้อยละ 2.6(3)แรงจูงใจด้านสังคมและด้านร่างกายมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้บริการสถาบันเสริมความงามของผู้ใช้บริการในเขตกรุงเทพมหานครในด้านความถี่โดยเฉลี่ยในการใช้บริการ/3เดือนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์การดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้บริการสถาบันเสริมความงาม รวมไปถึงการพัฒนาในส่วนของส่วนประสมทางการตลาดในการให้บริการ เพื่อให้ผู้ใช้บริการเกิดพฤติกรรมการใช้บริการสถาบันเสริมความงาม และพึงพอใจในการใช้บริการมากที่สุด |
URI: | http://ir-ithesis.swu.ac.th/dspace/handle/123456789/2457 |
Appears in Collections: | Faculty of Business administration for society |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
gs641130235.pdf | 2.9 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.