Please use this identifier to cite or link to this item:
http://ir-ithesis.swu.ac.th/dspace/handle/123456789/1036
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor | PAILIN JUNTADIT | en |
dc.contributor | ไพลิน จันทดิษฐ | th |
dc.contributor.advisor | Panida Sakuntanak | en |
dc.contributor.advisor | พนิดา ศกุนตนาค | th |
dc.contributor.other | Srinakharinwirot University. Faculty of Education | en |
dc.date.accessioned | 2021-03-19T08:39:49Z | - |
dc.date.available | 2021-03-19T08:39:49Z | - |
dc.date.issued | 14/5/2021 | |
dc.identifier.uri | http://ir-ithesis.swu.ac.th/dspace/handle/123456789/1036 | - |
dc.description | MASTER OF EDUCATION (M.Ed.) | en |
dc.description | การศึกษามหาบัณฑิต (กศ.ม.) | th |
dc.description.abstract | The objectives of this research are as follows: (1) to develop an adversity quotient test for Grade Nine students; (2) to check the quality of the adversity quotient test with an item response model; and (3) to compare the ratio of average information on tests differing in terms of length. The sample in this study consisted of 567 Grade Nine students under the authority of the Secondary Educational Service Area Office Three in the 2019 academic year. The data were analyzed using the IRT Pro program. The results of this research were as follows: (1) the results of the development were observed in the adversity quotient test. The AQ test had 40 items (10 situational) three-choice items and situational with four elements based on the theories of Stoltz. The adversity quotient by classical test theory showed that validity was in the range from 0.60-1.00 and the discriminative was in a range from 0.25-0.65; (2) the results of the item response theory showed that four element discrimination parameters (α) ranging from 0.51-2.49, and the difficulty parameter (β) showed that β1 ranged from -2.96 to -1.35, β2 ranged from -1.60 to 0.45. The test information had four factors on the adversity quotient test. Control (θ = -1.20) was 5.70, Ownership (θ = -1.60) was 7.71, Reach (θ = -1.20) was 6.38 and Endurance (θ = -1.60) was 6.66; and (3) the results compared the ratio of average information on tests differing in length. The test 40-item : 32-item, the test 32-item : 24-item and the test 40-item : 32-item that was higher 1.00. | en |
dc.description.abstract | การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 3 ประการ คือ 1) เพื่อสร้างแบบวัดความสามารถในการเผชิญปัญหาและฟันฝ่าอุปสรรคสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อตรวจสอบคุณภาพของแบบวัดโดยใช้ทฤษฎีการตอบสนองข้อสอบ และ 3) เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพสัมพัทธ์เฉลี่ยของแบบวัดที่มีความยาวแตกต่างกัน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3 (นนทบุรี - พระนครศรีอยุธยา) จำนวน 567 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดย Graded-Response Model ด้วยโปรแกรม IRT PRO ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1) ผลการสร้างแบบวัดทำให้ได้แบบวัดเชิงสถานการณ์ จำนวน 40 ข้อ ประกอบด้วย 10 สถานการณ์ ในแต่ละสถานการณ์ประกอบด้วยข้อคำถาม 4 ข้อ เพื่อวัด 4 องค์ประกอบตามแนวคิดของ Stoltz โดยตัวเลือกในแต่ละสถานการณ์กำหนดตามลักษณะของผู้ที่มีความสามารถในการเผชิญปัญหาและฟันฝ่าอุปสรรค 3 ระดับ ผลการวิเคราะห์คุณภาพของแบบวัดโดยใช้ทฤษฎีการทดสอบแบบดั้งเดิมพบว่ามีค่าดัชนีความสอดคล้องของข้อคำถาม (IOC) ตั้งแต่ 0.60 ถึง 1.00 และมีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.25 ถึง 0.65 2) ผลการวิเคราะห์คุณภาพของแบบวัดโดยใช้ทฤษฎีการตอบสนองข้อสอบพบว่า ค่าพารามิเตอร์ความชันร่วม (α) มีค่าตั้งแต่ 0.51 ถึง 2.49 ค่าพารามิเตอร์ threshold (β) พบว่า β1 มีค่าตั้งแต่ -2.96 ถึง -1.35 และ β2 มีค่าตั้งแต่ -1.60 ถึง 0.45 สารสนเทศของแบบวัด (Test information) สูงสุดในแต่ละองค์ประกอบพบว่า ด้านการควบคุมสถานการณ์มีค่าเท่ากับ 5.70 ที่ θ = -1.20 ด้านการวิเคราะห์สาเหตุและความรับผิดชอบมีค่าเท่ากับ 7.71 ที่ θ = -1.60 ด้านการรับรู้ผลกระทบปัญหาและอุปสรรคมีค่าเท่ากับ 6.38 ที่ θ = -1.20 และด้านความอดทนต่อปัญหาและอุปสรรคมีค่าเท่ากับ 6.66 ที่ θ = -1.60 3) ผลการวิเคราะห์ประสิทธิภาพสัมพัทธ์เฉลี่ยของแบบวัดที่มีความยาวแตกต่างกัน พบว่าแบบวัดความยาว 40 ข้อ : 32 ข้อ, 40 ข้อ : 24 ข้อ และ32 ข้อ : 24 ข้อ มีประสิทธิภาพสัมพัทธ์เฉลี่ยสูงกว่า 1.00 | th |
dc.language.iso | th | |
dc.publisher | Srinakharinwirot University | |
dc.rights | Srinakharinwirot University | |
dc.subject | ความสามารถในการเผชิญปัญหาและฟันฝ่าอุปสรรค | th |
dc.subject | ทฤษฎีการตอบสนองข้อสอบ | th |
dc.subject | ประสิทธิภาพสัมพัทธ์เฉลี่ย | th |
dc.subject | adversity quotient test | en |
dc.subject | Item Response Theory | en |
dc.subject | ratio of average information | en |
dc.subject.classification | Social Sciences | en |
dc.title | THE DEVELOPMENT OF ADVERSITY QUOTIENT TEST FOR GRADED 9 STUDENTS | en |
dc.title | การพัฒนาแบบวัดความสามารถในการเผชิญปัญหาและฟันฝ่าอุปสรรคสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 | th |
dc.type | Thesis | en |
dc.type | ปริญญานิพนธ์ | th |
Appears in Collections: | Faculty of Education |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
gs601130132.pdf | 4.73 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.