THE DEVELOPMENT OF TRAINING CURRICULUM ENHANCINGMOTORCYCLE RIDING SAFETY CONSCIOUSNESS OF UNDERGRADUATE PUPLIC HEALTH STUDENTS
Loading...
Date
Authors
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
Publisher
Srinakharinwirot University
Abstract
This study has been conducted in the form of research and development to improve the training curriculum for the development of a training curriculum and enhancing the motorcycle riding safety consciousness of undergraduate public health students. The research is divided into three phases as follows: Phase 1: safety consciousness evaluation for motorcycle riding safety consciousness and needs of training curriculum from undergraduate public health students with a sample of 399 subjects and five interview specialists. The data collection tools included a test of safety consciousness, the surveys needed of training curriculum and semi-structure interview forms. The statistics used included percentage, mean, standard deviation and content analysis. Phase 2 involved the construction and development of the training curriculum. The research findings revealed that the developed training curriculum was comprised of five steps according to the LOVESE Model: (1) learning; (2) openness; (3) value; (4) excellence; and (5) sharing experience. When the aforementioned template is inspected for quality in terms of accuracy and suitability, it was found that the criteria for validation included mean, deviation (Md>3.50), interquartile range (IQR≤1.50) and quality using predetermined criteria. Phase 3: Experimentation of training curriculum was implemented in sample of 31 people and the statistics used were a multiple comparison test, a t-test, repeated One-Way ANOVA and ANCOVA. It was found that: (1) undergraduate public health students exhibited significantly higher levels of knowledge, skill, safety consciousness and satisfaction using a predetermined criteria, and with a statistical significance level of.05;(2) undergraduate public health students who learned the training curriculum showed significantly higher satisfaction levels than the established criteria (Mean=3.50)
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนามีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกความปลอดภัยในการขับขี่รถจักรยานยนต์ของนักศึกษาปริญญาตรี สาขาสาธารณสุขศาสตร์ โดยแบ่งการวิจัยเป็น 3 ระยะ ระยะที่ 1 การประเมินจิตสำนึกความปลอดภัยในการขับขี่รถจักรยานยนต์และสำรวจความต้องการการฝึกอบรมของนักศึกษา จำนวน 399 คน และสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน เพื่อสังเคราะห์แนวทางการจัดทำหลักสูตรฝึกอบรม เครื่องมือในการเก็บข้อมูล คือ แบบวัดจิตสำนึกความปลอดภัย แบบสำรวจความต้องการฝึกอบรมและแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างแนวทางการจัดฝึกอบรม ใช้สถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ระยะที่ 2 สร้างและพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม พบว่า หลักสูตรฝึกอบรมรูปแบบ (LOVESE Model) ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ดังนี้ (1) ขั้นการเรียนรู้(Learning) (2) ขั้นเปิดใจ (Openness) (3) ขั้นเห็นคุณค่า(Value) (4) ขั้นเห็นคุณงามความดี(Excellence) และ (5) ขั้นแลกเปลี่ยนประสบการณ์(Sharing experience) เมื่อนำหลักสูตรไปตรวจสอบคุณภาพ ด้านความถูกต้องและความเหมาะสม พบว่าเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด(Md>3.50)(IQR≤1.50)ตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือการวัดและประเมินผล พบว่า มีความเที่ยงตรง ความเป็นปรนัย ค่าอำนาจจำแนกและความเชื่อมั่นตามเกณฑ์ที่กำหนด ระยะที่ 3 ทดลองใช้หลักสูตรฝึกอบรมกับนักศึกษา จำนวน 31 คน ใช้สถิติ การเปรียบเทียบพหุคูณ ทดสอบค่าที วิเคราะห์ความแปรปรวน ANOVA และ ANCOVA พบว่า (1)นักศึกษามีความรู้ ทักษะและจิตสำนึกความปลอดภัยหลังฝึกอบรมหลักสูตรที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นสูงกว่าก่อนฝึกอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 (2)นักศึกษาที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรมีความพึงพอใจสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด(ค่าเฉลี่ย=3.50)อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนามีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกความปลอดภัยในการขับขี่รถจักรยานยนต์ของนักศึกษาปริญญาตรี สาขาสาธารณสุขศาสตร์ โดยแบ่งการวิจัยเป็น 3 ระยะ ระยะที่ 1 การประเมินจิตสำนึกความปลอดภัยในการขับขี่รถจักรยานยนต์และสำรวจความต้องการการฝึกอบรมของนักศึกษา จำนวน 399 คน และสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน เพื่อสังเคราะห์แนวทางการจัดทำหลักสูตรฝึกอบรม เครื่องมือในการเก็บข้อมูล คือ แบบวัดจิตสำนึกความปลอดภัย แบบสำรวจความต้องการฝึกอบรมและแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างแนวทางการจัดฝึกอบรม ใช้สถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ระยะที่ 2 สร้างและพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม พบว่า หลักสูตรฝึกอบรมรูปแบบ (LOVESE Model) ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ดังนี้ (1) ขั้นการเรียนรู้(Learning) (2) ขั้นเปิดใจ (Openness) (3) ขั้นเห็นคุณค่า(Value) (4) ขั้นเห็นคุณงามความดี(Excellence) และ (5) ขั้นแลกเปลี่ยนประสบการณ์(Sharing experience) เมื่อนำหลักสูตรไปตรวจสอบคุณภาพ ด้านความถูกต้องและความเหมาะสม พบว่าเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด(Md>3.50)(IQR≤1.50)ตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือการวัดและประเมินผล พบว่า มีความเที่ยงตรง ความเป็นปรนัย ค่าอำนาจจำแนกและความเชื่อมั่นตามเกณฑ์ที่กำหนด ระยะที่ 3 ทดลองใช้หลักสูตรฝึกอบรมกับนักศึกษา จำนวน 31 คน ใช้สถิติ การเปรียบเทียบพหุคูณ ทดสอบค่าที วิเคราะห์ความแปรปรวน ANOVA และ ANCOVA พบว่า (1)นักศึกษามีความรู้ ทักษะและจิตสำนึกความปลอดภัยหลังฝึกอบรมหลักสูตรที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นสูงกว่าก่อนฝึกอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 (2)นักศึกษาที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรมีความพึงพอใจสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด(ค่าเฉลี่ย=3.50)อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05