MARKETING MIX FACTORS RELATED TO CUSTOMER DECISION-MAKING ON SELECTING ORGANIZATIONS TO CONDUCT TRAINING IN THE BANGKOK METROPOLITAN AREA

Abstract

The purposes of this research are to study the marketing mix factors related to customer decisions on selecting organizations to conduct training services in the Bangkok metropolitan area. The sample group in this study consisted of four hundred consumers who were aged twenty and over. The tools used for data collection included questionnaires. The statistics used in the analysis were average, percentage and standard deviation. The statistics used in the hypothesis testing were the Pearson's sample correlation coefficient, an independent t-test, and One-Way Analysis of Variance. The results of the research indicated that most of the respondents were female, aged twenty-six to thirty, held a Bachelor's degree, worked as private employees and a monthly income of fifteen to thirty thousand Baht.The results of the hypothesis testing found that consumers of different genders decided to use a training organization, which were not in line with the hypothesis. With regard to age, education, occupation, and monthly income, there was a decision to use the services of an organization that provided different training, with a statistical significance of 0.05, in line with the set hypothesis. As for marketing mix factors of product, price, distribution channel and marketing promotion, there was no correlation with decisions to use the service organization of training organizations. With regard to factors including personal, physical and process there is a relationship between decisions to use the services of organizations that provide training with a statistical significance of 0.05, in the same direction and in accordance with the hypothesis.The research results can be used as a guideline to improve their marketing strategies and enable businesses to gain a competitive advantage and better understand the needs of consumers.

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษา ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีความสัมพันธ์กับการตัดสินใจเลือกใช้บริการองค์กรที่จัดฝึกอบรม ของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในงานวิจัยคือผู้บริโภคที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป จำนวน 400 ตัวอย่าง โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐานคือ ค่า t-test F-test และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ 26-30 ปี ระดับการศึกษา ปริญญาตรี เป็นพนักงานบริษัทเอกชน และมีรายได้ต่อเดือน 15,001-30,000 บาท ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ผู้บริโภคที่มีเพศต่างกัน มีการตัดสินใจเลือกใช้บริการองค์กรที่จัดฝึกอบรม ไม่แตกต่างกัน ไม่สอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ ส่วนด้านอายุ ระดับการศึกษา อาชีพ และมีรายได้ต่อเดือน มีการตัดสินใจเลือกใช้บริการองค์กรที่จัดฝึกอบรม แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 สอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ ส่วนปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย และด้านการส่งเสริมการตลาด ไม่มีความสัมพันธ์กับการตัดสินใจเลือกใช้บริการองค์กรที่จัดฝึกอบรม โดยที่ด้านบุคคล ด้านลักษณะทางกายภาพ และด้านกระบวนการ มีความสัมพันธ์กับการตัดสินใจเลือกใช้บริการองค์กรที่จัดฝึกอบรม ของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ในทิศทางเดียวกัน สอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ ผลการวิจัยสามารถใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงกลยุทธ์ทางการตลาดที่จะทำให้ธุรกิจสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และทำให้เข้าใจในความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น