THE ANTECEDENTS AND EFFECTS OF SCHOOL BELONGINGOF SECONDARY SCHOOL STUDENTS IN BANGKOK

Abstract

The purposes of this research were: 1) to study the school belonging measurement model of secondary school students in Bangkok, and 2) to examine the antecedents and effects of school belonging among secondary school students in Bangkok using empirical data. The research samples consisted of 303 and 469 secondary school students from the Bangkok Secondary Educational Service Area Office 1 for phases 1 and 2, respectively. The measurement scale used was a rating scale. Data were analyzed using confirmatory factor analysis and structural equation modeling. The findings were as follows: 1) The school belonging measurement model of secondary school students in Bangkok demonstrated a good fit with the empirical data (Chi-Square = 285.05, df = 251, p = .07, GFI = 0.93, AGFI = 0.91, CFI = 1.00, RMSEA = 0.02, SRMR = 0.04). The factors, in descending order of importance, were active participation, student–teacher connections, feeling valued, school pride, and student–friend connections. 2) The antecedents and effects model also demonstrated a good fit with the empirical data (Chi-Square = 188.72, df = 161, p = .07, GFI = 0.96, AGFI = 0.94, CFI = 1.00, RMSEA = 0.02, SRMR = 0.02). Regarding school belonging, school climate and psychological capital had direct positive effects. Furthermore, school belonging had direct positive effects on classroom citizenship behavior and psychological well-being.

การวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายการวิจัย 1) เพื่อศึกษาโมเดลการวัดความเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นในกรุงเทพมหานคร และ 2) เพื่อตรวจสอบปัจจัยเชิงสาเหตุและผลของความเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นในกรุงเทพมหานครกับข้อมูลเชิงประจักษ์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 จำนวน 303 คน และ 469 คน ตามจุดมุ่งหมายการวิจัยข้อ 1 และข้อ 2 ตามลำดับ แบบวัดเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วย การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน และการวิเคราะห์โมเดลสมการเชิงโครงสร้าง ผลการวิจัยพบว่า 1) โมเดลการวัดความเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นในกรุงเทพมหานครมีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ (Chi-Square=285.05 df=251 p=.07 GFI=0.93 AGFI=0.91 CFI=1.00 RMSEA=0.02 SRMR=0.04) ซึ่งองค์ประกอบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมเชิงรุก มีค่าน้ำหนักองค์ประกอบมาตรฐานสูงสุด รองลงมาคือ ความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนกับครู ความรู้สึกที่มีต่อค่านิยม ความภาคภูมิใจในโรงเรียน และความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนกับเพื่อน ตามลำดับ และ 2) โมเดลปัจจัยเชิงสาเหตุและผลของความเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นในกรุงเทพมหานครมีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ (Chi-Square=188.72 df=161 p=.07 GFI=0.96 AGFI=0.94 CFI=1.00 RMSEA=0.02 SRMR=0.02) ซึ่งความเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนได้รับอิทธิพลทางตรงทางบวกจากบรรยากาศในโรงเรียนและทุนทางจิตวิทยา โดยที่ความเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนมีอิทธิพลทางบวกต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีในชั้นเรียน และความผาสุกทางจิตใจ