A STUDY OF INFLUENCE OF SERVANT LEADERSHIP AFFECTING LIFE SATISFACTION OF TEACHERS IN SECONDARY SCHOOLS HAVING HAPPY WORKPLACE AS A MEDIATOR VARIABLE

Abstract

This research aimed to: (1) examine the level of servant leadership among school administrators; (2) study the level of happy workplace in secondary schools; (3) assess the level of teacher life satisfaction in secondary schools; and (4) investigate the influence of servant leadership on teacher life satisfaction, with happy workplace serving as a mediator variable. The sample group consisted of 269 school administrators and teachers under the Prachuap Khiri Khan Secondary Educational Service Area Office for the academic year 2024. The sample size was determined using Krejcie and Morgan's table and selected through stratified random sampling based on school size, followed by simple random sampling via a lottery method. The data collection tool was a five-point Likert scale questionnaire with an Item Objective Congruence (IOC) index ranging from 0.60 to 1.00 and an overall reliability coefficient of 0.990. The statistical methods used for data analysis included mean, percentage, standard deviation, and path analysis. The results of the study revealed the following; : (1) the overall level of servant leadership among school administrators was high, with. one Among of the 10 dimensions, one was rated at the highest level, and nine were rated at a high level; (2) the overall level of happy workplace was high., with Among one of the eight dimensions, one was rated at the highest level, and seven were rated at a high level; (3) the overall level of teacher life satisfaction was high with one of. Among the five dimensions, one was rated at the highest level, and four were rated at a high level; (4) the path analysis indicated that teacher life satisfaction was directly and indirectly influenced by two causal variables: servant leadership of school administrators and the happy workplace of secondary schools. These influences were statistically significant at the 0.001 level.

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อศึกษาระดับภาวะผู้นำใฝ่บริการของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ 2) เพื่อศึกษาระดับความเป็นองค์กรแห่งความสุขของสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ 3) เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจในชีวิตครูในสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ และ 4) เพื่อศึกษาอิทธิพลของภาวะผู้นำใฝ่บริการของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในชีวิตครูในสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาโดยมีความเป็นองค์กรแห่งความสุขเป็นตัวแปรคั่นกลาง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้บริหารสถานศึกษาและข้าราชการครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ ประจำปีการศึกษา 2567 จำนวน 269 คน ได้จากการกำหนดตามตารางเครจซีและมอร์แกน โดยการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น ตามขนาดของสถานศึกษา จากนั้นจึงทำการสุ่มอย่างง่ายโดยวิธีการจับสลาก เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ซึ่งมีค่าดัชนีความสอดคล้อง IOC ตั้งแต่ 0.60 - 1.00 ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับมีค่าเท่ากับ 0.990 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เส้นทาง ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับภาวะผู้นำใฝ่บริการของผู้บริหารสถานศึกษา โดยรวมอยู่ในระดับมาก ซึ่งมีทั้งหมด 10 ด้าน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าอยู่ในระดับมากที่สุด จำนวน 1 ด้าน และอยู่ในระดับมาก จำนวน 9 ด้าน 2) ระดับความเป็นองค์กรแห่งความสุข โดยรวมอยู่ในระดับมาก ซึ่งมีทั้งหมด 8 ด้าน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าอยู่ในระดับมากที่สุด จำนวน 1 ด้าน และอยู่ในระดับมาก จำนวน 7 ด้าน 3) ระดับความพึงพอใจในชีวิตครู โดยรวมอยู่ในระดับมาก ซึ่งมีทั้งหมด 5 ด้าน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าอยู่ในระดับมากที่สุด จำนวน 1 ด้าน และอยู่ในระดับมาก จำนวน 4 ด้าน 4) ผลการวิเคราะห์เส้นทางพบว่าความพึงพอใจในชีวิตครู ได้รับอิทธิพลทั้งทางตรงและทางอ้อมจากตัวแปรปัจจัยเชิงสาเหตุที่อยู่ในเส้นทางอิทธิพลทั้ง 2 ตัวแปร ได้แก่ ภาวะผู้นำใฝ่บริการของผู้บริหารสถานศึกษา และความเป็นองค์กรแห่งความสุขของสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001