BRAND EQUITY RELATING TO CONSUMER PURCHASING BEHAVIOR OF CASIO WATCHES IN BANGKOK METROPOLITAN AREA

Abstract

The objective of this research is to study equity in terms of the buying behavior of consumers regarding Casio watches in the Bangkok metropolitan area. The samples in this research consisted of four hundred consumer who bought or used Casio watches. The questionnaire was used to collect the data and the statistical methods used to analyze the data included frequency, percentage, mean and standard deviation. The statistical methods used to analyze the differences between two or more variables were an independent sample t-test and One-Way Analysis of Variance. The statistical methods used to analyze the relationship between two variables was the Pearson product moment correlation coefficient.The results of the research showed that most of the samples were female, aged between 25 - 34, single, graduated with a Bachelor's degree, employees of private companies with a monthly income of 10,001 - 20,000 Baht per month. The consumers had opinions regarding brand equity at a good level. On average, consumers owned two Casio watches and bought new Casio watches with an average price 3,374 Baht per time.The results of the hypotheses testing were as follows: consumers with different educational levels, occupation and income differed in term of the amount of Casio watches with a statistical significance of 0.05. Consumers of different ages, educational level, occupation and income levels had different buying behaviors in term of the average price of Casio watches per time with a statistical significance of 0.05 and 0.01 levels, respectively. Brand equity in terms of brand awareness, brand associations, brand perception, brand loyalty, and the other proprietary brand assets of Casio watches had a positively low and moderate relationship toward the buying behavior of consumers in terms of the amount of Casio watches and average price per time at a statistically significant level of 0.05 and 0.01, respectively.

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาคุณค่าตราสินค้าที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการซื้อนาฬิกาคาสิโอของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ ผู้บริโภคที่ซื้อหรือเคยซื้อนาฬิกาคาสิโอ ของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 400 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือการแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแตกต่าง โดยใช้สถิติค่าที ค่าความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์ความสัมพันธ์โดยใช้สถิติสหสัมพันธ์อย่างง่ายเพียร์สันผลการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุ 25 - 34 ปี ระดับการศึกษาปริญญาตรี อาชีพพนักงานบริษัทเอกชน สถานภาพ โสด รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001 – 20,000 บาท มีระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณค่าตราสินค้าโดยรวมอยู่ในระดับดี ผู้บริโภคมีพฤติกรรมการซื้อนาฬิกาคาสิโอด้านปัจจุบันท่านมีนาฬิกาคาสิโอทั้งหมดกี่เรือน โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2 เรือน ด้านระดับราคาในการซื้อต่อครั้งโดยเฉลี่ยประมาณ 3,374 บาทผลการทดสอบสมมติฐานพบว่าผู้บริโภคที่มีระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ แตกต่างกัน มีพฤติกรรมการซื้อนาฬิกาคาสิโอของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร ในด้านปัจจุบันท่านมีนาฬิกาคาสิโอทั้งหมดกี่เรือน แตกต่างกันที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 ผู้บริโภคที่มีอายุ ระดับการศึกษา อาชีพ และ รายได้ แตกต่างกัน มีพฤติกรรมการซื้อนาฬิกาคาสิโอของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร ในด้านระดับราคาในการซื้อเฉลี่ยต่อครั้งแตกต่างกัน ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 และ 0.01 ตามลำดับ คุณค่าตราสินค้านาฬิกาคาสิโอ ประกอบด้วย ด้านการรู้จักต่อตราสินค้า ด้านการรับรู้ต่อคุณภาพ ด้านภาพลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับตราสินค้า ด้านความภักดีต่อตราสินค้า และด้านสินทรัพย์อื่น ๆ ของตราสินค้าโดยรวม มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการซื้อนาฬิกาคาสิโอของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร ด้านปัจจุบันท่านมีนาฬิกาคาสิโอทั้งหมดกี่เรือน และ ด้านระดับราคาในการซื้อเฉลี่ยต่อครั้ง โดยมีความสัมพันธ์ในระดับต่ำ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 และ 0.01 ตามลำดับ