EFFECTS OF EARLY REHABILITATION PROTOCOLS WITH LASER VISUAL FEEDBACK ON KNEE ANGLES AND FUNCTIONAL MOBILITY AFTER TOTAL KNEE ARTHROPLASTY: A RANDOMIZED CONTROLLED TRIAL

Abstract

Currently, the conventional treatment for total knee arthroplasty (TKA) rehabilitation employs exercises combined with verbal feedback, which may be a limitation for achieving ROM exercises and improving movement symmetry. Therefore, using exercises with visual feedback may be necessary for TKA patients to guide movement and increase motivation during early rehabilitation. The aim of this study was to investigate the effects of knee exercises and movement symmetry training with laser visual feedback on knee flexion and extension, and functional mobility in TKA patients. Thirty-two patients with TKA were randomized into the intervention group, received TKA rehabilitation protocol with laser visual feedback and the control group, received a TKA rehabilitation protocol alone within two weeks. The knee flexion and extension angles were analyzed by video camera and Kinovea program. The timed up and go test (TUG) were applied to assess functional mobility. Analysis of Covariance and repeated measure analysis of variance were used to analyze the data. The intervention group exhibited significantly more knee flexion and extension than the control group on postoperative day (POD) 7 and 14 (p

ในปัจจุบันการฟื้นฟูสมรรถภาพหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าจะใช้วิธีการออกกำลังกายร่วมกับการใช้ข้อมูลป้อนกลับด้วยวาจา ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดในการบรรลุเป้าหมายของการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มมุมการเคลื่อนไหวและความสมมาตรของการเคลื่อนไหว ดังนั้นการออกกำลังกายร่วมกับการให้ข้อมูลป้อนกลับผ่านทางสายตาจึงอาจจำเป็นสำหรับผู้ป่วยหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า เพื่อเป็นแนวทางในการเคลื่อนไหวและเพิ่มแรงจูงใจขณะฟื้นฟูสมรรถภาพในระยะแรก การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการออกกำลังกายข้อเข่าและการฝึกความสมมาตรของการเคลื่อนไหวร่วมกับการให้ข้อมูลป้อนกลับด้วยแสงเลเซอร์ต่อมุมงอ-เหยียดเข่า และความสามารถในการเคลื่อนไหวในผู้ป่วยหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า โดยแบ่งผู้ป่วยหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า จำนวน 32 คน เป็น 2 กลุ่มด้วยวิธีการสุ่ม ในกลุ่มทดลองได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าร่วมกับการให้ข้อมูลป้อนกลับด้วยแสงเลเซอร์ ส่วนกลุ่มควบคุมได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเพียงอย่างเดียว เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ วัดมุมงอ-เหยียดเข่าโดยใช้วิดีโอบันทึกการเคลื่อนไหวและโปรแกรม Kinovea และประเมินความสามารถในการเคลื่อนไหวโดยใช้การทดสอบเดินไป-กลับ 3 เมตร วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติการวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วมและความแปรปรวนแบบวัดซ้ำ ผลการวิจัยพบว่า หลังผ่าตัดวันที่ 7 และ 14 กลุ่มทดลองมีมุมงอและเหยียดเข่ามากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p