FACTORS AND GUIDELINES FOR APPLYING ETHICAL LEADERSHIP OF ADMINISTRATORS TO ENHANCE TEACHERS' PSYCHOLOGICAL SAFETY IN THE AYUTTHAYA PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1

Abstract

This research aimed to (1) examine the levels of ethical leadership among school administrators and the psychological safety of teachers under the Phra Nakhon Si Ayutthaya Primary Educational Service Area Office 1; (2) investigate the relationship between teachers’ personal factors and their psychological safety; (3) examine the relationship between administrators’ ethical leadership and teachers’ psychological safety; (4) analyze the influence of teachers’ personal factors and administrators’ ethical leadership on teachers’ psychological safety; and (5) propose guidelines for promoting psychological safety among teachers through ethical leadership. A mixed-methods research design was employed. The quantitative sample consisted of 320 public primary school teachers, selected using Krejcie and Morgan’s sample size table and multi-stage sampling. The research instrument was a five-point Likert scale questionnaire, and data were analyzed using frequency, percentage, mean, standard deviation, Pearson’s correlation coefficient, and stepwise multiple regression analysis. For the qualitative phase, data were collected through semi-structured interviews with five key informants selected through purposive stratified sampling and analyzed using content analysis. The findings revealed that: (1) the overall psychological safety of teachers was high, with the highest mean score in team identity and clarity, and the lowest in social risk-taking; (2) ethical leadership of administrators was rated at the highest level overall, with honesty receiving the highest score and justice the lowest; (3) teachers’ gender and age were significantly associated with psychological safety at a very low level (p < .05), while administrators’ ethical leadership was moderately and positively correlated with teachers’ psychological safety (p < .05); (4) teachers’ age, along with administrators’ justice and caring, significantly predicted teachers’ psychological safety, accounting for 64.30% of the variance (p < .05); and (5) key informants proposed that ethical leadership practices such as active listening, encouraging open expression without fear of negative consequences, promoting teacher participation in decision-making, and fostering a climate of trust, acceptance, encouragement, and ongoing support are effective in enhancing teachers’ psychological safety.

งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาระดับภาวะผู้นําเชิงจริยธรรมของผู้บริหารสถานศึกษา และระดับความปลอดภัยทางจิตวิทยาของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลของครูกับความปลอดภัยทางจิตวิทยาของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นําเชิงจริยธรรมของผู้บริหารสถานศึกษากับความปลอดภัยทางจิตวิทยาของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 4) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลของครูและภาวะผู้นําเชิงจริยธรรมของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อความปลอดภัยทางจิตวิทยาของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 และ 5) เพื่อเสนอแนวทางการใช้ภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมของผู้บริหารเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยทางจิตวิทยาของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 ใช้วิธีการวิจัยแบบผสมผสาน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเชิงปริมาณ ได้แก่ ข้าราชการครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 โดยใช้ตารางกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างของเครจซี่ และมอร์แกน ได้จำนวน 320 คน จากนั้นใช้วิธีสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือวิจัยเป็นแบบสอบถามมาตรส่วนประมาณค่า 5 ระดับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบวิธีการคัดเลือกเข้า สำหรับงานวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้วิจัยสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญในการวิจัยเชิงคุณภาพ จำนวน 5 คน โดยใช้การเลือกตัวอย่างแบบแบ่งชั้นตามวัตถุประสงค์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) ความปลอดภัยทางจิตวิทยาของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 ภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ด้านอัตลักษณ์และความชัดเจนในบริบทของทีม และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ความกล้าเสี่ยงทางสังคม 2) ปัจจัยภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ความซื่อสัตย์ และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ด้านความยุติธรรม 3) ปัจจัยส่วนบุคคลของครู ด้านเพศและด้านอายุมีความสัมพันธ์กับความปลอดภัยทางจิตวิทยาของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับต่ำมาก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และปัจจัยภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมของผู้บริหารสถานศึกษามีความสัมพันธ์กับความปลอดภัยทางจิตวิทยาของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 ในทางบวกระดับปานกลาง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) ปัจจัยส่วนบุคคลของครูและปัจจัยภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 ส่งผลต่อความปลอดภัยทางจิตวิทยาของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยปัจจัยส่วนบุคคลของครู ด้านอายุ และปัจจัยภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมของผู้บริหารสถานศึกษา ด้านความยุติธรรมและความเอาใจใส่ผู้อื่น สามารถพยากรณ์ความปลอดภัยทางจิตวิทยาของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1 ได้ร้อยละ 64.30 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 5) แนวทางการพัฒนาการใช้ภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมของผู้บริหารสถานศึกษาที่เสริมสร้างความปลอดภัยทางจิตวิทยาของครู กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญเสนอว่า การให้ความสำคัญกับการรับฟังครู เน้นการเปิดโอกาสให้ครูแสดงความคิดเห็นโดยไม่กลัวผลกระทบเชิงลบ การส่งเสริมให้ครูมีส่วนร่วมในการทำงานหรือตัดสินใจ รวมทั้งการสร้างบรรยากาศแห่งความไว้ใจและการยอมรับและการให้กำลังใจและการสนับสนุน