FACTORS AFFECTING ON ACADEMIC BURNOUT OF PRE-SERVICE PHYSICAL EDUCATION TEACHERS

Abstract

This study aims to examine the factors influencing academic burnout among Pre-service physical education teachers. The study categorizes these factors into four groups: resilience, emotional intelligence, Learning engagement, and physical activity. The sample for this study consists of 250 undergraduate students in years 1 to 4 from Srinakharinwirot University, Chulalongkorn University, and Kasetsart University during the academic year 2023. The participants were selected using stratified random sampling, followed by simple random sampling within each academic year. The research instrument used in this study was a questionnaire on factors influencing academic burnout among Pre-service physical education teachers. Data analysis was conducted using the Pearson Product-Moment Correlation Coefficient and Multiple Regression Analysis. The research findings revealed the following: 1) There was a significantly negative correlation between academic burnout of Pre-service physical education teachers with three factors: emotional intelligence ,learning engagement, physical activity and all at a level of .05 2) Three factors that effect the academic burnout of pre-service physical education teachers at .05 level: emotional intelligence, resilience, and learning engagement 3) There was no statistically significant effect between academic burnout and physical activity of Pre-service physical education teachers. 4) The significantly predicted equation of studying academic burnout of Pre-service physical education teachers at a level .05 was: Y = 4.15 (Constant) + 0.27X1*- 0.70X2*- 0.22X3* +0.00X4 and 5) in terms of the Standard Score was: Z = 0.18X1* - 0.55X2* - 0.16X3* -0.03X4

การศึกษานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะหมดไฟในการเรียนของนิสิตวิชาชีพครู พลศึกษา โดยจำแนกปัจจัยที่ศึกษาเป็น 4 ปัจจัย คือความยืดหยุ่นทางจิตใจ ความฉลาดทางอารมณ์ ความยึดมั่นผูกพันในการเรียน และกิจกรรมทางกาย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นครั้งนี้ เป็นนิสิตวิชาชีพครูพลศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี สาขาวิชาพลศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีที่ 1-4 ปีการศึกษา 2566 มีสถานะเป็นนิสิตที่ลงทะเบียนเรียนอย่างต่อเนื่องในหลักสูตร โดยผู้วิจัยใช้การสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น (Stratified sampling) จากนั้นจึงใช้การสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย (Simple Random Sampling)จากแต่ละชั้นปี โดยกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามเกณฑ์จากสูตรของ ยามาเน่ (Yamane, 1967) ที่ระดับความเชื่อมั่น 95% และค่าความคลาดเคลื่อนที่ยอมให้เกิดขึ้นได้ 5% จำนวนทั้งหมด250 คน เครื่องมือที่ใช้วิจัย ได้แก่ แบบสอบถามปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะหมดไฟในการเรียนของนิสิตวิชาชีพครูพลศึกษา การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้การวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (Pearson Product-Moment Correlation Coefficient) และการถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ทางลบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับภาวะหมดไฟในการเรียนของนิสิตวิชาชีพครูพลศึกษา มี 3 ปัจจัย ได้แก่ ความฉลาดทางอารมณ์ ความยึดมั่นผูกพันในการเรียน และกิจกรรมทางกาย มีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 2) ปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะหมดไฟในการเรียนของนิสิตวิชาชีพครูพลศึกษา มีปัจจัยเรียงลำดับจากปัจจัยที่ส่งผลมากที่สุดไปยังปัจจัยที่ส่งผลน้อยที่สุด ประกอบด้วย ความฉลาดทางอารมณ์ ความยืดหยุ่นทางจิตใจ ความยึดมั่นผูกพันในการเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) ปัจจัยที่ไม่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับภาวะหมดไฟในการเรียนของนิสิตวิชาชีพครูพลศึกษา ได้แก่กิจกรรมทางกาย สมการพยากรณ์ปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะหมดไฟในการเรียนของนิสิตวิชาชีพครูพลศึกษา มีรายละเอียด ดังนี้ สมการพยากรณ์ปัจจัยที่ส่งผลภาวะหมดไฟในการเรียนของนิสิตวิชาชีพครูพลศึกษา ในรูปคะแนนดิบได้แก่ Y = 4.15 (Constant) + 0.27X1*- 0.70X2* - 0.22X3* +0.00X4 สมการพยากรณ์ปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะหมดไฟในการเรียนของนิสิตวิชาชีพครูพลศึกษา ในรูปคะแนนมาตรฐาน ได้แก่ Z= 0.18X1*- 0.55X2* - 0.16X3* - 0.03X4