Please use this identifier to cite or link to this item:
http://ir-ithesis.swu.ac.th/dspace/handle/123456789/3042
Title: | SHEAR BOND STRENGTH OF LITHIUM DISILICATE GLASS-CERAMIC BONDEDWITH VARIOUS SURFACE-TREATED TITANIUM ความแข็งแรงยึดเฉือนระหว่างลิเทียมไดซิลิเกตกับไทเทเนียมที่ปรับปรุงพื้นผิวต่างกัน |
Authors: | LAONGDAO AMORNWICHITWECH ละอองดาว อมรวิชิตเวช Mali Palanuwech มะลิ พลานุเวช Srinakharinwirot University Mali Palanuwech มะลิ พลานุเวช mali@swu.ac.th mali@swu.ac.th |
Keywords: | ความแข็งแรงยึดเฉือน ไทเทเนียม เรซินซีเมนต์ ลิเทียมไดซิลิเกต อะโนไดซ์ พ่นอนุภาคอะลูมินา เคลือบซิลิกา Titanium resin cement lithium disilicate silica coating anodization shear bond strength airborne-particle abrasion |
Issue Date: | 16 |
Publisher: | Srinakharinwirot University |
Abstract: | The purpose of this in-vitro study was to determine the shear bond strength (SBS) of different surface-treated titanium alloy with lithium disilicate glass-ceramic with resin cement (Multilink® N). There were 90 titanium alloy specimens, divided into six groups, as follows: (1) control group (CT); (2) 50-µm aluminum oxide airborne particle abrasion group (SB); (3) silica coating group (CJ); (4) anodization group (AN); (5) anodization then alumina 50-µm aluminum oxide airborne particle abrasion group (ANSB), and (6) anodization, then the silica coating group (ANCJ). The SBS test was performed with a universal testing machine. The One-Way ANOVA and Tukey’s post-hoc test was used to determine the differences between groups (α=0.05). The failure mode of deboned titanium was classified under a stereoscope. The results showed that the mean SBS of control group and the anodization group had significantly lower SBS than the others (p การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาค่าแรงยึดเฉือนระหว่างไทเทเนียมที่มีการปรับปรุงพื้นผิวด้วยวิธีต่างกันกับเซรามิกชนิดลิเทียมไดซิลิเกตโดยยึดติดด้วยเรซินซีเมนต์ชนิดมัลติลิ้งค์เอ็น ไทเทเนียมจำนวน 90 ชิ้น นำไปปรับปรุงพื้นผิวด้วยวิธีดังนี้ กลุ่มที่ 1 ไม่ปรับปรุงผิว(CT), กลุ่มที่ 2 ปรับปรุงผิวด้วยการพ่นอนุภาคอะลูมินา(SB), กลุ่มที่ 3 ปรับปรุงผิวการพ่นอนุภาคอะลูมินาเคลือบซิลิกา(CJ), กลุ่มที่ 4 ปรับปรุงผิวด้วยการทำอะโนไดซ์(AN), กลุ่มที่ 5 ปรับปรุงผิวด้วยการทำอะโนไดซ์ก่อนพ่นอนุภาคอะลูมินา(ANSB) และกลุ่มที่ 6 ปรับปรุงผิวด้วยการทำอะโนไดซ์ก่อนพ่นด้วยอนุภาคอะลูมินาเคลือบซิลิกา(ANCJ) นำชิ้นงานไปยึดติดกับเซรามิกชนิดลิเทียมไดซิลิเกต ก่อนนำมาทดสอบค่าความแข็งแรงยึดเฉือนด้วยเครื่องทดสอบสากล เปรียบเทียบค่าความแข็งแรงยึดเฉือนของแต่ละกลุ่มด้วยการวิเคระห์ความแปรปรวนทางเดียว และการทดสอบเฮชเอสดีของทูกีย์(α=0.05) ไทเทเนียมที่ผ่านการทดสอบถูกนำไปสังเกตรูปแบบความล้มเหลวหลังการแตกหักภายใต้กล้องสเตอริโอสโคป ผลการทดสอบค่าความแข็งแรงยึดเฉือนเฉลี่ยของกลุ่มควบคุม และกลุ่ม AN มีค่าต่ำกว่ากลุ่มอื่นอย่างมีนัยยะสำคัญทางสถิติ(p |
URI: | http://ir-ithesis.swu.ac.th/dspace/handle/123456789/3042 |
Appears in Collections: | Faculty of Dentistry |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
gs621110060.pdf | 2.42 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.