INFLUENCES OF INFLUENCERS' CHARACTERISTICS AND INTEGRATED MARKETING COMMUNICATION TOWARD CONSUMERS' PURCHASING BEHAVIORSOF POWDER SUPPLEMENTS IN BANGKOK

Abstract

The purpose of this research is to study the characteristics and influences of influencers and Integrated Marketing Communication regarding the purchsing behavior of consumers of powder supplements in the Bangkok metropolitan area. The sample group in this research consisted of people who have had an experienced review and had at least one year of purchase experience of powder supplements, over 16 years old and lived in the Bangkok metropolitan areas. A questionnaire was used to collect the data. The statistical analysis used percentage, mean and standard deviation for the hypothesis testing. The statistics methods included a t-test, One-Way ANOVA and Multiple Regression analysis by Enter method. The result of this research found that most respondents were female, between 26 to 35, held a Bachelor's degree and were occupied as private employees with an average monthly income of 20,001-30,000 Baht and the most of daily media exposure is the type of personal media. The overall opinions toward the product factors were at a good level. The result of the hypotheses testing revealed the following: (1) consumers of different of gender, age, education levels, occupations, average monthly income and daily exposure differed. The difference were the purchasing behaviors by consumers of powder supplements in Bangkok metropolitan area; (2) the characteristic factors of influencers in terms of expertise, attractiveness and similarity affecting the purchasing behavior of the consumers of powder supplements in Bangkok metropolitan area in terms of average cost of purchase; (3) the integrated marketing communication factors, in terms of advertising, personal selling and direct marketing affected powder supplement purchase behaviors in terms of frequency of purchase.

การวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาอิทธิพลของปัจจัยคุณลักษณะผู้มีอิทธิพลทางความคิดและการสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการที่มีต่อพฤติกรรมการซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทชงดื่มของผู้บริโภคในกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริโภคที่เคยมีประสบการณ์จากการดูการวิจารณ์และเคยมีประสบการณ์ซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทชงดื่มอย่างน้อย 1 ปี ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปและอาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 400 คน ใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน ได้แก่ สถิติการวิเคราะห์ความแตกต่างใช้การทดสอบค่าที สถิติการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว และการวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุคูณ โดยใช้วิธีการ Enter ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 26-35ปี ระดับการศึกษาระดับปริญญาตรี ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001 - 30,000 บาท และการเปิดรับสื่อในชีวิตประจำวันมากที่สุดคือประเภทสื่อบุคคล ผลการทดสอบสมมติฐานที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 พบว่า 1. ผู้บริโภคที่มีลักษณะส่วนบุคคล ประกอบด้วย เพศ อายุ ระดับการศึกษาสูงสุด อาชีพ รายได้เฉลี่ยต่อเดือน และการเปิดรับสื่อในชีวิตประจำวันที่แตกต่างกัน มีพฤติกรรมการซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทชงดื่มของผู้บริโภคในกรุงเทพมหานคร แตกต่างกัน 2. ปัจจัยคุณลักษณะของผู้มีอิทธิพลทางความคิด ด้านความเชี่ยวชาญ ด้านความดึงดูดใจ และด้านความเหมือนกลุ่มเป้าหมายส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทชงดื่มของผู้บริโภคในด้านค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยในการซื้อ 3.ปัจจัยการสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ ด้านการโฆษณา ด้านการใช้พนักงานขาย และด้านการตลาดทางตรงส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทชงดื่มของผู้บริโภคในด้านความถี่ในการซื้อ