INTEGRATED MARKETING COMMUNICATION ON IMPULSE BUYING OF DRINKING WATER IN THE BANGKOK METROPOLITAN AREA

Abstract

The aim of this research was to study the integrated marketing communication of impulse purchases of drinking water in the Bangkok metropolitan area. The sample in this research consisted of four hundred consumers who had purchased drinking water products and lived in the Bangkok metropolitan area. A questionnaire was used as a tool for data collection. The statistics for the data analysis were in terms of percentage, mean and standard deviation. The statistical hypotheses testing employed a t-test, a one way analysis of variance and the multiple regression analysis. The results of this research found the following: most of the respondents were female, aged between twenty six to thirty five, with an education level was lower or equal to a Bachelor's degree, an monthly income lower than or equal to 30,000 Baht, and worked as private company staffs/employees. The results of hypothesis testing were shown as follows: consumers of a different gender, age, monthly income and occupation were different factors in terms of making decision on impulse buying of drinking water at a statistically significant level of 0.01. The factor of integrated marketing communication in the aspects of advertising, sales promotion, event marketing and point of purchase had a positive effect to decision making in terms of impulse buying of drinking water at a statistically significant level of 0.01 and 0.05, respectively Integrated marketing communication in the aspects of sales staff negatively affected to decision making on impulse buying of drinking water at a statistically significant level of 0.05

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาการสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าน้ำดื่มอย่างฉับพลันของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้ที่ซื้อหรือเคยซื้อน้ำดื่มบรรจุขวด และอาศัยอยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 400คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน คือ การวิเคราะห์ความแตกต่างโดยการหาค่าที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และสถิติการวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุคูณผลการวิจัยพบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ 26-35 ปี มีระดับการศึกษาต่ำกว่าหรือเท่ากับปริญญาตรี มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่ำกว่าหรือเท่ากับ 30,000 บาท และประกอบอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน/ลูกจ้าง ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า ผู้บริโภคที่มี เพศ อายุ รายได้เฉลี่ยต่อเดือน และอาชีพ แตกต่างกัน มีการตัดสินใจซื้อสินค้าน้ำดื่มอย่างฉับพลันแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ ด้านการโฆษณา ด้านการส่งเสริมการขาย ด้านการจัดกิจกรรมทางการตลาด และด้านการสื่อสาร ณ จุดซื้อ มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าน้ำดื่มอย่างฉับพลัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และ 0.05 ตามลำดับ ในทิศทางเดียวกัน การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาด้านการใช้พนักงานขาย มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าน้ำดื่มอย่างฉับพลัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ในทิศทางตรงกันข้าม