SHAPING ABILITY OF THREE RECIPROCATING NICKEL TITANIUM SINGLE FILE SYSTEMS IN S-CURVE ROOT CANAL

Abstract

The purpose of this study is to compare the shaping ability of three reciprocating nickel titanium single file systems: WaveOne Gold, Reciproc blue, and EdgeOne Fire in simulated s-curve canals. Twenty-one simulated s-curve canals were randomly divided into three groups (n=7). The image of each simulated canal was taken both before and after root canal preparation with a digital camera. The decrease of the angle of curvature was measured using the ImageJ program. The pre-and-post instrumentation images were superimposed and the canal transportation was evaluated by measuring the amount of resin removal. The data were analyzed using one-way ANOVA and Tukey's test. The statistical significance was set at 0.05. The results significantly showed the highest decrease of the angle of curvature and the distance of canal transportation in the Reciproc blue group at coronal curvature (p<0.05). At the level of apical curvature, WaveOne Gold group presented the most significant lowest decrease of the angle of curvature (p<0.05). At the end of apical curvature level, the EdgeOne Fire group revealed the most distance of canal transportation (p<0.05). In conclusion, the shaping ability of three reciprocating nickel titanium single file systems were different. WaveOne Gold could efficiently maintain the original canal shape. Reciproc blue showed more root canal transportation at the coronal curvature. Although EdgeOne Fire revealed the least root canal transportation at the coronal curvature and presented the most transportation in the apical area.

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการเตรียมรูปร่างคลองรากฟันเมื่อเตรียมแบบคลองรากฟันโค้งรูปอักษรเอสด้วยไฟล์นิกเกิลไทเทเนียมระบบไฟล์ตัวเดียวชนิดหมุนไปกลับระบบเวฟวันโกลด์ เรซิพรอกบลู และเอดจ์วันไฟร์ ศึกษาในแบบจำลองคลองรากฟันโค้งรูปอักษรเอส จำนวน 21 ชิ้น (กลุ่มละ 7 ชิ้น) ถ่ายภาพแบบจำลองคลองรากฟันก่อนและหลังการเตรียมคลองรากฟัน นำภาพถ่ายไปวัดค่ามุมความโค้งของคลองรากฟันเพื่อหาค่ามุมความโค้งที่ลดลงโดยใช้โปรแกรมอิมเมจเจ นำภาพก่อนและหลังการเตรียมคลองรากฟันซ้อนทับกันเพื่อหาระยะการขยายคลองรากฟันผิดแนวเดิม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียวและการทดสอบของตูกี ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 ผลการศึกษาพบว่าที่ความโค้งส่วนต้นแบบจำลองคลองรากฟันที่เตรียมด้วยไฟล์ระบบเรซิพรอกบลูมีระยะการขยายคลองรากฟันผิดแนวเดิมและมีค่ามุมความโค้งลดลงมากที่สุดอย่างมีนัยสำคัญ (p<0.05) ที่ความโค้งส่วนปลายไฟล์ระบบเวฟวันโกลด์ทำให้ค่ามุมความโค้งลดลงน้อยที่สุดอย่างมีนัยสำคัญ (p<0.05) และแบบจำลองคลองรากฟันที่เตรียมด้วยไฟล์ระบบเอดจ์วันไฟร์พบระยะการขยายคลองรากฟันผิดแนวเดิมที่ระดับสิ้นสุดโค้งในส่วนโค้งส่วนปลายมากที่สุด (p<0.05) จากผลการศึกษานี้สรุปได้ว่าไฟล์นิกเกิลไทเทเนียมทั้ง 3 ระบบ มีประสิทธิภาพในการเตรียมรูปร่างคลองรากฟันที่ต่างกัน โดยไฟล์ระบบเวฟวันโกลด์สามารถคงรูปร่างเดิมของคลองรากฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไฟล์ระบบเรซิพรอกบลูมีการขยายคลองรากฟันที่ความโค้งส่วนต้นมาก เอดจ์วันไฟร์จะขยายคลองรากฟันผิดแนวเดิมที่ความโค้งส่วนต้นน้อยที่สุดแต่ขยายคลองรากฟันผิดแนวเดิมที่บริเวณปลายรากฟันมากที่สุด