DEVELOPMENT OF CURRICULUM ENRICHMENT TO ENHANCE COMPETENCY IN USING BUSINESS THAI FOR CHINESE STUDENTS AT YUNNAN UNIVERSITY OF FINANCE AND ECONOMICS P.R.CHINA

Abstract

The objectives of this research were as follows: (1) to study the needs and problems with using the Thai language for business among Chinese students at the Yunnan University of Economics and Finance in China; (2) to develop curriculum enrichment to enhance competency in Thai language in business among Chinese students at the Yunnan University of Economics and Finance in China; (3) to study the efficiency of the curriculum enrichment to enhance the competency in Thai language in business among Chinese students at the Yunnan University of Economics and Finance in China; and (4) to study the effectiveness of the curriculum enrichment to enhance competency in the Thai language for business among Chinese students at the Yunnan University of Economics and Finance in China. The study was conducted according to the research and development process which was divided into four steps, namely: (1) Step One: analysis of the problems and the needs in of using Thai language for business for Chinese students; (2) Step Two: developed curriculum enrichment to enhance the competency of Thai language for business among Chinese students; (3) Step Three evaluated the effectiveness of the curriculum enrichment; (4) the evaluation and improvement of curriculum enrichment. The samples of this study were divided into two groups: a group of 103 participants used to study the needs of using Thai language in business; and (2) the experimental group, consisting of 25 fourth-year Chinese students used in the Thai language in business course learning. The instruments employed in this research included: (1) the questionnaires used for needs of using Thai language in business for Chinese students; (2) curriculum enrichment to enhance competency in Thai language in business for Chinese students; (3) the pre-test and post-test papers, and (4) the questionnaires used for evaluating the satisfaction of the learning towards curriculum enrichment. The statistics employed in this study included frequency count, percentage, mean, standard deviation and t-test. The results revealed the following (1) curriculum enrichment to enhance the competency in Thai language in business for Chinese students passed the mean score, showing that it was possible for further use; (2) From the pre-and-post tests on the competency in Thai language in business testing, the different scores of the students showed that there was improvement at a significant level of .05; (3) the satisfaction towards the curriculum enrichment to enhance the competency in Thai language in business for Chinese students on average was at the highest level.

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหา และความต้องการในการใช้ภาษาไทยเชิงธุรกิจ สำหรับนักศึกษาจีน มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และการเงินยูนนาน 2) เพื่อพัฒนาหลักสูตรเสริมเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการใช้ภาษาไทยเชิงธุรกิจสำหรับนักศึกษาจีน มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และการเงินยูนนาน 3) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของหลักสูตรเสริมเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการใช้ภาษาไทยเชิงธุรกิจ สำหรับนักศึกษาจีน มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และการเงินยูนนาน 4) เพื่อศึกษาประสิทธิผลของหลักสูตรเสริมเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการใช้ภาษาไทยเชิงธุรกิจ สำหรับนักศึกษาจีน มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และการเงินยูนนาน การดำเนินการศึกษาวิจัยเป็นแบบวิจัยและพัฒนา แบ่งเป็น 4 ระยะ คือ 1) ระยะที่ 1 วิเคราะห์สภาพปัญหาและความต้องการในการใช้ภาษาไทยเชิงธุรกิจ สำหรับนักศึกษาจีน 2) ระยะที่ 2 การสร้างหลักสูตร 3) ระยะที่ 3 การตรวจสอบประสิทธิผลของหลักสูตร 4) ระยะที่ 4 การประเมินผลและปรับปรุงหลักสูตร กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มที่ใช้ในการศึกษาความต้องการจำเป็นในการใช้ภาษาไทยเชิงธุรกิจ สำหรับนักศึกษาจีน จำนวน 103 คน 2) กลุ่มนักศึกษาจีน ชั้นปีที่ 4 ที่เข้ารับการเรียนตามหลักสูตร จำนวน 25 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสอบถามความต้องการจำเป็นในการใช้ภาษาไทยเชิงธุรกิจ สำหรับนักศึกษาจีน 2) หลักสูตรเสริมเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการใช้ภาษาไทยเชิงธุรกิจ 3) แบบทดสอบความสามารถในการใช้ภาษาไทยเชิงธุรกิจก่อนและหลังการเรียน และ 4) แบบประเมินความพึงพอใจต่อหลักสูตร สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test ผลการวิจัยพบว่า 1) หลักสูตรผ่านเกณฑ์ค่าเฉลี่ยที่กำหนดไว้ มีประสิทธิภาพและสามารถนำไปใช้ได้ 2)ผลการทดสอบความสามารถในการใช้ภาษาไทยเชิงธุรกิจ สำหรับศึกษาจีน สรุปได้ว่าคะแนนหลังการเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนการเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) ในด้านความพึงพอใจ นักศึกษาจีนมีความพึงพอใจต่อหลักสูตรอยู่ในระดับมากที่สุด