Please use this identifier to cite or link to this item:
http://ir-ithesis.swu.ac.th/dspace/handle/123456789/1059
Title: | CLINICAL STUDY OF DIODE LASER WITH ULTRASONIC SCALER
IN PERIODONTAL TREATMENT การศึกษาทางคลินิกในการใช้ไดโอดเลเซอร์ร่วมกับเครื่องขูดหินน้ำลายอัลตราโซนิค เพื่อรักษาโรคปริทันต์ |
Authors: | NATNICHA PONGPAIROTE ณัฐณิชา พงษ์ไพโรจน์ Narongsak Laosrisin ณรงค์ศักดิ์ เหล่าศรีสิน Srinakharinwirot University. Faculty of Dentistry |
Keywords: | เครื่องขูดหินน้ำลายอัลตราโซนิค ไดโอดเลเซอร์ การขูดหินน้ำลายและเกลารากฟันทั้งปากในคราวเดียวเสร็จ การรักษาโรคปริทันต์อักเสบ Ultrasonic scaler Diode laser scaling and root planing full mouth in a single visit Periodontal treatment |
Issue Date: | 18 |
Publisher: | Srinakharinwirot University |
Abstract: | The present study aims is to evaluate the effectiveness of the clinical outcome of the use of a diode laser with an ultrasonic scaler compare to an ultrasonic scaler alone in periodontal treatment. Materials and methods: There were 30 patients with chronic periodontitis (moderate to severe) who were then randomly divided into two groups: Group One (control) and Group Two (test). For all of the groups, scaling and root planing a full mouth in a single visit was performed with ultrasonic scaler only. In the test group, a diode laser was used after scaling and root planing during the same visit, but only in a periodontal pocket that had a pocket depth of ≥ 5 mm. (PD ≥ 5 mm.). The clinical parameters were recorded before treatment and one, three and six months after treatment. Result: There were significant difference found between groups, in term of bleeding on probing (BOP) for ≥ 5 mm. pocket depth after three and six months (p<0.05), pocket reduction, and clinical attachment gain for ≥ 7 mm. pocket depth after six months (p<0.05). Conclusions: The use of a diode laser with ultrasonic scaler in periodontal treatment showed significantly improved in BOP at pocket depth ≥ 5 mm., in pocket reduction, and clinical attachment gain at pocket depth ≥ 7 mm. วัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลทางคลินิกระหว่างการใช้ไดโอดเลเซอร์ร่วมกับเครื่องขูดหินน้ำลายอัลตราโซนิคกับการใช้เครื่องขูดหินน้ำลายอัลตราโซนิคเพียงอย่างเดียวในการรักษาโรคปริทันต์อักเสบระดับปานกลางถึงรุนแรง ด้วยการขูดหินน้ำลายและเกลารากฟันทั้งปากในคราวเดียวเสร็จ วิธีการวิจัย อาสาสมัคร 30 คน เป็นผู้ป่วยโรคปริทันต์อักเสบระดับปานกลางถึงรุนแรง แบ่งเป็น 2 กลุ่มด้วยวิธีการแบบสุ่ม ได้แก่กลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง ทั้ง 2 กลุ่มได้รับการขูดหินน้ำลายและเกลารากฟันทั้งปากในคราวเดียวเสร็จด้วยเครื่องขูดหินน้ำลายอัลตราโซนิค เพียงอย่างเดียวในกลุ่มควบคุมและใช้ไดโอดเลเซอร์เสริมด้วยในกลุ่มทดลอง ทำเลเซอร์เฉพาะตำแหน่งร่องลึกปริทันต์ที่มีขนาด ≥ 5 มม. ขึ้นไป ทำเลเซอร์ภายหลังการขูดหินน้ำลายเกลารากฟันทั้งปากเสร็จ ในนัดการรักษาครั้งเดียวกัน ติดตามผลการรักษาที่เวลา 1,3 และ 6 เดือน ผลการศึกษาพบว่าในกลุ่มทดลองที่ตำแหน่งร่องลึกปริทันต์ขนาดเริ่มต้น ≥ 5 มม. มีการลดลงของร้อยละค่าดัชนีการเลือดออกของเหงือกแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) ที่เวลา 3 เดือนและ 6 เดือนเมื่อเปรียบเทียบระหว่างกลุ่ม และพบว่าในตำแหน่งร่องลึกปริทันต์ที่มีขนาดเริ่มต้น ≥ 7 มิลลิเมตรนั้น กลุ่มทดลองมีการลดลงของร่องลึกปริทันต์ และการเพิ่มขึ้นของระดับการยึดเกาะอวัยวะปริทันต์แตกต่างระหว่างกลุ่มอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) ที่เวลา 6 เดือน สรุปผลว่าการใช้ไดโอดเลเซอร์ร่วมกับเครื่องขูดหินน้ำลายอัลตราโซนิคในการรักษาโรคปริทันต์อักเสบระดับปานกลางถึงรุนแรง สามารถลดร้อยละดัชนีการเลือดออกของเหงือกที่ตำแหน่งร่องลึกปริทันต์ขนาด ≥ 5 มม. และลดขนาดร่องลึกปริทันต์และเพิ่มระดับการยึดเกาะของอวัยวะปริทันต์ได้ในร่องลึกปริทันต์ขนาด ≥ 7 มม. ขึ้นไป |
Description: | MASTER OF SCIENCE (M.Sc.) วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วท.ม.) |
URI: | http://ir-ithesis.swu.ac.th/dspace/handle/123456789/1059 |
Appears in Collections: | Faculty of Dentistry |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
gs601110050.pdf | 2.16 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.